นิทรรศการรำลึกวันมรณภาพปู่จ้าวพรหม

นิทรรศการรำลึกวันมรณภาพปู่จ้าวพรหม ๑๔ -๑๖ ม.ค.๒๕๕๘

รอบหลายปีที่ได้เข้ามาทำกิจกรรม แบบย้อนยุคเพื่อค้นหาอดีตของน้ำขาว ..เหมือนการร่วมกันต่อจิ๊กซอของตำบลเอาไว้ให้เป็นมรดกทางภูมิปัญญาอันล้ำค่าสู่ลูกหลานในรุ่นต่อ ๆ ไป… หลายคนที่แวะเวียนกันเข้ามาพูดคุยให้ข้อมูล เอกสาร หลักฐานเชิงประจักษ์ที่เกี่ยวกับน้ำขาวในอดีตมากมายทั้งภาพถ่ายเก่าเก็บ เอกสารร่วมสมัย นับย้อนหลังไปเป็นร้อยปีทั้งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราววิถีชีวิต คติความเชื่อทางประเพณีวัฒนธรรม เรื่องของยาสมุนไพรและเรื่องเล่า..ซึ่งนับเป็นข้อมูลที่บอกเล่าถึงรากฐานของความตื่นตัว ใฝ่รู้ของคนน้ำขาวที่เกี่ยวกับการศึกษามาจากครั้งอดีต …

สำหรับปีนี้เราพบหลักฐานชิ้นเก่าเก็บอยู่ ๒ ฉบับที่สามารถนำมาเชื่อมโยงและตอกย้ำพัฒนาการทางสังคมของชุมชนน้ำขาว จนทำให้เชื่อได้ว่า “เรามีอดีตที่ไม่ได้ถูกยกเมฆ ขึ้นมาจากความรู้สึกอย่างแน่นอน” ..สังเกตพบว่า กล่องดำที่ถูกบรรจุข้อมูลสำคัญที่สามารถใช้ไขความลับในอดีตของน้ำขาวจนมองเห็นได้ทะลุปรุโปร่ง ก็คือเหตุการณ์ในยุคสมัย ของ”ปู่เจ้าพรหม” …ในยุคที่ท่านเป็นเจ้าอาวาส (ประมาณ พ.ศ.๒๔๘๐-๒๕๑๒) นับเป็นยุคทองของการแสวงหาความรู้ คู่คุณธรรม..

จากหลักฐานที่ค้นพบชิ้นหนึ่งในปีนี้ เราพบว่า “ในคราวจัดงานฉลองศาลาโรงธรรม ในปี ๒๔๘๒ ได้มีการพิมพ์หนังสือประเทืองปัญญาแจกให้กับผู้มาร่วมงานบุญในครั้งนั้น ชื่อว่า “สังขารธรรมคำกลอน” ถึง ๕๐๐ เล่ม โดย ผู้ใช้นามปากกาว่า “ลูกในถิ่น”..แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันรูปทรงของศาลาโรงธรรมหลังนั้นได้ถูกดัดแปลงไป ซึ่งในทางประวัติศาสตร์เขาเรียกว่าเป็นการทำลายหลักฐานขั้นต้น(ปฐมภูมิ) ซึ่งถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งไป…ซึ่งต่อไปหากเราพูดถึงศาลาโรงธรรมหลังดังกล่าวไม่ว่าจะในแง่มุมไหน เราก็มีสิทธิไปดูได้แค่ภาพถ่ายเท่านั้นนะครับ…ของจริงถูกดัดแปลงไปจนกลายเป็นรูปทรงของคนน้ำขาวในยุคปัจจุบัน(พ.ศ.๒๕๕๑-๒๕๕๘) ไปเสียแล้ว…

หลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่ค้นพบในปีนี้ คือเอกสารเกี่ยวกับการอนุญาตให้สร้างเขต วิสุงคามสีมา ของวัดน้ำขาวใน ซึ่งในเอกสารดังกล่าวเรียกว่า “วัดสตก” ปี พ.ศ. ๒๔๓๘…หากมีโอกาสค่อยมารายงานให้กับพี่น้องลูกหลานคนน้ำขาวใหม่นะครับชักจะยาวไป ….

ป.ล….ความคิดเห็นใดๆที่ผมเขียนไปในครั้งนี้…ไม่ได้กล่าวโทษคณะกรรมการของวัดหรือผู้รับผิดชอบในปัจจุบันนะครับ…ธรรมดาคนทำงานย่อมผิดพลาด แต่ผมต้องการแค่ให้เกิดการ “ตกผลึกทางความคิด” วัตถุสิ่งของก่อสร้างใด ๆ ที่ถูกสร้างไว้ในแต่ละยุค แต่ละสมัย มันมีเหตุผลของผู้สร้างในยุคนั้น ๆ … เราไม่มีสิทธิ์เอาเหตุผลและความเชื่อของคนในยุคเราไปเปลี่ยนแปลงและลบล้างความเชื่อข้ามยุคนะครับ …บทบาทและภารกิจของพวกเรา คือ จะทำอย่างไรที่จะร่วมกันประคับประคองทำหน้าที่ส่งผ่านภูมิปัญญา องค์ความรู้เชิงประจักษ์เหล่านี้ไปสู่ ลูกหลานคนน้ำขาวในรุ่นต่อ ๆไป อย่าให้ชำรุดทรุดโทรมและถูกบิดเบือนก็พอ…ส่วนคติความเชื่อ และการกระทำใด ๆ ของพวกเราคนในยุคปัจจุบัน… ลูกหลานเขาค่อยทำหน้าที่ส่งต่อไปให้เอง…..ไม่ต้องกังวล…

เรื่อง/รูป โดย: ครูยะ

ใส่ความเห็น